แนะไม่ควรกินประจำ หลังพบสถิติ เป็นสาเหตุการตายรองจากโรคหัวใจ
เคยถามผู้ชายอกสามศอกว่า นอกจากเมียแล้วคุณกลัวอะไรมากที่สุด เขาตอบอย่างไม่ลังเลว่า มะเร็ง คำตอบของผู้ชายกลัวเมียคนนั้น ได้รับการสนับสนุนจากทั้งคนไม่กลัวเมียและคนทั่วไป เพราะมะเร็งเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยเพิ่มพุ่งขึ้นครองอันอับสอง ของสาเหตุการตายจากโรคทั้งหลาย จะเป็นรองก็เพียงแต่โรคหัวใจ
จากสถิติกระทรวงสาธารณสุขในรอบ 5 ปี คนไทยตายด้วยโรคมะเร็งประมาณสองหมื่นกว่าคนในปี 2535 พุ่งขึ้นเป็นสามหมื่นกว่าคนในปี 2538 เฉลี่ยตายชั่วโมงละ 5 คน เป็นตัวเลขที่น่ากลัวไม่น้อย มะเร็งแม้จะเป็นโรคร้าย แต่ก็เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้เพราะ ร้อยละ 80 เกิดจากภาวะแวดล้อมปนเปื้อนและวิถีการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการกินอาหารที่ไม่ถูกต้องและการสูบบุหรี่ สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งโลกระบุชัดว่า ร้อยละ 50 ของผู้ที่เป็นมะเร็งเกิดจากการกินอาหารที่ไม่ถูกต้องและกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง
อาหารที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง มีดังนี้ - อาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ - อาหารที่มีรสเค็มจัดและหวานจัด- อาหารประเภท ปิ้ง ย่าง เผาจนไหม้เกรียม - อาหารที่ผสมสีฉูดฉาดและสีผิดธรรมชาติ - อาหารที่ปนเปื้อนสารเคมี เช่น ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย - อาหารรมควัน - อาหารหมักดองด้วยเกลือ - อาหารแปรรูปบางชนิด - เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
อาหารที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นอันตรายจนกระทั่งกินไม่ได้ เราสามารถกินและดื่มได้ในปริมาณพอเหมาะ แต่ที่สำคัญคือ ไม่ควรกินอาหารเหล่านั้นติดต่อกันเป็นประจำ หรือที่เรียกว่ากินซ้ำซาก เพราะเท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมากขึ้น แต่ถ้าหลีกเลี่ยงได้จะเป็นการดีที่สุด
เมื่อมีอาหารเพิ่มความเสี่ยงแล้ว ย่อมมี อาหารลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ด้วย ซึ่งควรใส่ใจและการกินเป็นประจำ ได้แก่ - ใยอาหารจากอาหารธรรมชาติ เช่น จากพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช และข้าวกล้อง - อาหารทีมีสารแอนตี้ออกซิเด็นท์จากธรรมชาติ เช่น วิตามินซี วิตามินอีและเบต้าแคโรทีนจากพืชผัก ผลไม้ ธัญพืช - อาหารประเภทปลา - ธัญพืช เช่น ถั่วเมล็ดแห้ง และข้าวกล้อง - กินตามโภชนาบัญญัติ
การไม่สูบบุหรี่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงความเครียดควบคู่ไปกับการกินอาหารตาม 5 ข้อและหลีกเลี่ยงการกินอาหารตาม 9 ข้อจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้
โดย อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่มา : หนังสือฉลาดกิน ข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th |